
สวัสดีครับ ผมชื่อ คณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ฝ่ายงานวิจัยและบริการการลงทุน หรือ IRIS สำหรับประสบการณ์ด้านวิเคราะห์ทางเทคนิคประมาณเกือบ 20 ปี ตั้งแต่การวิเคราะห์แบบสมัยยุคแรก ๆ Point and figures จนถึงปัจจุบัน Program trading แต่ละยุคสมัยมีจุดเด่นของมันคละกันไป แต่ที่สำคัญ “ความสนุกพร้อมกับความตั้งใจฝึกฝน ควรมาคู่กัน” ทำให้ตรงกับ Concept หลักการทำงานของผม คือ “สนุกกับงานที่ตนเองรัก /แต่ไม่หลงหรือยึดติด” ซึ่งอาจจะสอดคล้องกับหนังสือของพระอาจารย์ ว. วชิรเมธี =”รื่นรมย์ในงาน เบิกบานในชีวิต”
Technical analysis = สำหรับความคิดเห็นของผม คือ มันเป็นการคาดการณ์ในเชิงวิเคราะห์ “ ทิศทางราคา / ปริมาณการซื้อขาย / จังหวะเวลา / พฤติกรรมความทรงจำและการซ้ำรอยของมนุษย์ ” ถูกจัดอยูในด้านศิลปะมากกว่า วิทยาศาสตร์ เนื่องจากยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ามันทำงานได้ดีหรือไม่ แต่การวิเคราะห์ทางเทคนิคมีมาตั้งแต่ยาวนานจากใช้คำว่า Chartist มาเป็น Technical analyst ดังนั้นเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเครื่องมือของมนุษย์ / คิดค้นโดยมนุษย์ / ตัดสินใจโดยมนุษย์ นับจากยุคบาบิโรนที่นำไปใช้กับการซื้อขายแลกเปลียนสินค้าจาก “สิ่งของต่อสิ่งของ” หรือการนำไปประยุทธ์ใช้กับตลาดสินค้าเกษตรซึ่งเป็นแหล่งการซื้อขายแรก ๆ ก่อนที่จะมีตลาดหุ้น หรือแม้กระทั้งนำวิเคราะห์ทางเทคนิคไปใช้ประยุทธ์ใช้การทำสงคราม เช่น นักวิเคราะห์ชาวญี่ปุ่นที่มีแนวคิดCandlestick นำไปใช้วางแผน ซื่งวิวัฒนาการของการวิเคราะห์ทางเทคนิคสามารถดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน (โดยความสำคัญของมนุษย์คือต้องการรู้คำตอบ คือ “แนวโน้ม” โดยต้องการรู้แนวโน้มอยู่ในวงจรขาขึ้น ขาลง หรือว่าแกว่งตัวไร้ทิศทาง) นั่นคือต้องการหา TREND นั่นเอง จึงเป็นที่มาของวลียอดฮิต คือ Trend is your best friend (แนวโน้มคือเพื่อนที่ดีสุดสำหรับท่าน) มันเป็นเพื่อนยามสุข เป็นเพื่อนที่เตือนเราว่าข้างหน้ามีทางโค้ง และเป็นเพื่อนยามเหงาในช่วงที่ราคาไม่ไปไหน เป็นต้น
บทความที่ผมจะนำเสนอจากนี้ไป ผมจะเน้นในกรอบของ 4 ปัจจัย “โดยไม่ใช่เป็นการสอน เป็นเพียงการนำเสนอแล้วไปต่อยอด”
1. การเคลื่อนไหวของพฤติกรรมราคา (Bar chart, Candlestick, Price pattern) 2. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume analysis) 3. การหาจังหวะเวลาเข้า-ออกในส่วนของเครื่องมือ (Market indicators) 4. จิตวิทยาและพฤติกรรมของนักเก็งกำไร สะท้อนในด้านอารมณ์ (History repeat itself, Cycle, Greed & Fear , etc )
CHAPTER 1 = DRAGON PATTERN รูปแบบมังกรผมจะแบ่งออกมาเป็น 4 ตอน ตอนที่ 1 = ตามหาหัวมังกร และส่วนคอของมังกร ตอนที่ 2 = ตามหาขาหน้ามังกรและหลังมังกร ตอนที่ 3 = ตามหาขาหลังมังกรและหางมังกร ตอนที่ 4 = เราได้อะไรจากการตามล่ารูปแบบมังกร
ตอนแรก = ตามหาหัวมังกร และส่วนคอของมังกร Case study = ภาพรูปแบบมังกร ยกตัวอย่าง BLAND
 ส่วนหัวมังกร 1. พิจารณาส่วนหัวของมังกร = การตั้งข้อสังเกตุ คือ ราคาหุ้น BLAND ได้ทำยอดสูงไว้ที่ 2.3 บาท จากนั้นบริเวณยอดสูงดังกล่าวทำหน้าที่เป็นแนวต้านจากนั้นจะพบว่ามีการเปลี่ยนแนวโน้มคือยอดสูงที่ปรับตัวขึ้นถัดไม่สามารถผ่าน 2.3 บาท แต่กลับทำยอดสูงที่ลดลง แสดงถึงแนวโน้มเปลี่ยนมาเป็นแกว่งตัวลง (ช่วงวงกลมสีชมพู ภาพด้านล่าง จะพบว่าราคาแกว่งตัวลง)
ส่วนคอของมังกร 2. พิจารณาส่วนของคอ = เมื่อเราได้หัวมังกร เราก็คำนวณหรือวางแผนคร่าว ๆ ก่อน (ยอดสูง 2.3 บาท ยอดต่ำที่ทำไว้ 1.74 บาท และจากนั้นดีดตัวขึ้นแต่ทำยอดสูงที่ลดลงที่ 2.18 บาท) เมื่อเราได้ข้อมูลแล้วก็ลองลง 2.1 วางช่วงลง 2.3-1.74 บาท เท่ากับ 0.56 บาท และลบ 2.18 บาท จะได้ 1.62 บาท 2.2 วางช่วงลง โดยใช้ 2.18 – 1.74 บาท เท่ากับ 0.44 บาท และลบ 1.74 บาท จะได้ 1.3 บาท (ท่านจะเห็นการหยุดบริเวณ 1.3 บาท ปรากฏว่าราคาทำยอดต่ำไว้ที่ 1.28 บาท และดีดตัวกลับ)
สนุกไหมครับแล้วอ่านต่อฉบับหน้า....กับการหาส่วนของขาหน้า และหลังมังกรกันนะครับ ขออันเชิญวลีทองของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสัฆปริณายก =”ผู้เจริญเมตตาอยู่เสมอ เป็นผู้ที่ไม่โกธรง่าย ทั้งมีจิตใจเยือกเย็นเป็นสุข” |