เปิดบัญชีลงทุน
เข้าสู่ระบบ
EN
เปิดบัญชี
เปิดบัญชีใหม่
เปิดบัญชีใหม่ผ่านเว็บไซต์
สมัครเปิดบัญชีต่อ
สมัครทดลองใช้บริการ 14 วัน
ประเภทบัญชี
เปิดบัญชีกับเราดีอย่างไร
ดาวน์โหลดเอกสารเปิดบัญชี
ลูกค้าปัจจุบันเปิดบัญชีเพิ่ม
สร้าง User ใช้งานอินเทอร์เน็ต
ผลิตภัณฑ์/บริการ
บริการซื้อขายหลักทรัพย์
บริการซื้อขายตราสารอนุพันธ์
บริการซื้อขายกองทุนรวม
บริการซื้อขายตราสารหนี้
บริการซื้อขายหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง
บริการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์
บริการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์
บริการ Block Trade
บริการลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศ
บริการซื้อขายกองทุนรวมต่างประเทศ
บริการธนบดีธนกิจ
บริการ Auto Trade
บริการ Conditional Order
โปรแกรม Krungsri Securities My iFUND
โปรแกรม Krungsri Securities DCA
ข่าวประกาศ/โปรโมชัน
ข่าวประกาศ
หุ้นกู้ / พันธบัตร
โปรโมชัน / IPO
แหล่งความรู้
โปรแกรมซื้อขายออนไลน์
จัดอันดับกองทุน
คลิปวิดีโอ
Investor Guide
Blog นักวิเคราะห์
อบรม/สัมมนา
ลงทะเบียนสัมมนา
สัมมนาออนไลน์
ช่วยเหลือ
ดาวน์โหลดคู่มือ / โปรแกรม
ดาวน์โหลดเอกสาร
คู่มือการยืนยันตัวตน
คู่มือ 2FA - Authentication
คู่มือ Krungsri Securities Plus on Line
คำถามที่พบบ่อย
เกี่ยวกับบริษัท
ประวัติความเป็นมา
วิสัยทัศน์และพันธกิจ
โครงสร้างผู้ถือหุ้น
รายชื่อคณะกรรมการ
รายงานประจำปี
งบการเงิน
การประชุมผู้ถือหุ้น
นักลงทุนสัมพันธ์
ความรับผิดชอบต่อสังคม
ข่าวบริษัท
นโยบายบริษัท
ข้อมูลใบอนุญาต
ร่วมงานกับเรา
ข้อมูลการติดต่อ
ติดต่อเรา
เมนู
<< LATEST
ก่อนที่ตลาดหุ้นไทยจะเปิดนักลงทุนต้องหาข้อมูลอะไรบ้าง?
27 May 64
สิ่งที่นักลงทุนต้องดูคือ
• ปัจจัยภายนอก
• ปัจจัยภายใน
ปัจจัยภายนอก คือ ปัจจัยที่ไม่เกี่ยวกับหุ้นในตลาดหุ้นไทยโดยตรง
เช่น
Index จากตลาดอื่นๆ
เช่น Index ทางอเมริกา เช่น ทั้ง Dow Jones , S&P 50 และ NASDAQ เนื่องจากตลาดอเมริกา เป็น Leading Indicator ปิดการซื้อขายก่อนเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นไทย เมื่อทิศทางของอเมริกาไปทิศทางไหนตลาดหุ้นไทยจึงมีโอกาสไปในทิศทางเดียวกัน ในการดูปัจจัยภายนอกรวมถึงตลาดยุโรป และ ตลาดหุ้นเอเชียบางประเทศที่ตลาดเปิดก่อนตลาดไทยเช่น ออสเตรเลีย เกาหลี ญี่ปุ่น นักลงทุนต้องดูเพื่อวิเคราะห์ทิศทางการลงทุน ตัวอย่าง เช่น ถ้า Dow Jones บวกตลาด เอเชียบวก และทิศทางการการลงทุนขณะนั้นอิงปัจจัยภายนอก ตลาดหุ้นไทยอาจมีโอกาสที่จะไปในทางเดียวกัน
ค่าเงิน
ส่วนใหญ่จะอิงจากค่าเงิน ดอลลาร์ ซึ่งค่าเงิน ดอลล่าร์ ส่วนใหญ่จะแปรผกผันกับค่าเงินฝั่งเอเชีย เช่น ถ้าดอลล่าร์อ่อนค่า อาจจะทำให้ค่าเงินของเราแข็งค่าขึ้นมาในเชิงเปรียบเทียบ เมื่อค่าเงินเราแข็งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ Fund Flow (เงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ) เข้าแล้วมีผลเชิงบวกสำหรับตลาดหุ้นไทย
Commodities
(สินค้าโภคภัณฑ์) สินค้าหลักที่ต้องดูคือ น้ำมัน เนื่องจากน้ำมันเป็นดัชนีที่มีความสำคัญกับ Sector พลังงานเป็นอย่างมาก น้ำมันที่นิยมดูคือ WTI (West Texas Intermediate แหล่งน้ำมันจากประเทศสหรัฐอเมริกา) และ Brent (แหล่งน้ำมันจากทะเลเหนือ (North Sea) คือทะเลระหว่างเกาะอังกฤษและกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย)
ในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) มี 3 Sector หลักที่มีน้ำหนักใน SET มากทีสุด คือ พลังงาน ธนาคาร และ ICT ตัวอย่างเช่น หากราคาน้ำมันขึ้น ตัวหุ้นกลุ่มพลังงานอาจมีโอกาสนำตลาดขึ้นเช่นเดียวกัน
เว็บไซต์ที่สามารถติดตาม index และข่าวสารการลงทุนของต่างประเทศได้มีหลากหลายเว็บไซต์ เช่น
www.bloomberg.com,
www.investing.com,
www.cnbc.com
ปัจจัยภายใน
คือ สถานะการณ์หรือเหตุการณ์ที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทยโดยตรง ดูจากสถานการณ์ภายในประเทศ หรือข่าวเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นๆ โดยตรง ซึ่งหากในประเทศมีสถานการณ์ไม่ปกติ ทิศทางในตลาดหุ้นไทยอาจไม่เป็นในทิศทางเดียวกับตลาดภายนอก ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ติดตามข่าวในตลาดหุ้นไทย ได้แก่ www.Infoquest.co.th
สำหรับนักลงทุนมือใหม่อาจจะรู้สึกว่าการวิเคราะห์หุ้นหรือวิเคราห์การลงทุนนั้นยากต้องใช้เวลาในการศึกษาข้อมูล ดังนั้นนักลงทุนอาจจะหาอ่านบทวิเคราะห์ต่างๆ จากบริษัทหลักทรัพย์ที่สรุปภาพรวมและกลยุทธ์การลงทุนมาให้แล้ว สำหรับนักลงทุนที่เปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน แล้ว สามารถดูบทวิเคราะห์ได้ที่
www.nomuradirect.com
หรือเปิดบัญชีหลักทรัพย์ได้ที่
https://www.nomuradirect.com/th/open-account/account.aspx
Share
ก่อนที่ตลาดหุ้นไทยจะเปิดนักลงทุนต้องหาข้อมูลอะไรบ้าง?